“OEM คืออะไร?” เป็นคำถามที่หลายคนในวงการธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมสุขภาพและความงาม กำลังมองหาคำตอบที่ชัดเจน OEM ย่อมาจาก Original Equipment Manufacturer หมายถึง รูปแบบการผลิตที่บริษัทผู้ผลิต (Manufacturer) ทำการผลิตสินค้าหรือส่วนประกอบให้กับบริษัทอื่น (Buyer หรือ Brand Owner) โดยยึดตามข้อกำหนด การออกแบบ และสูตรเฉพาะที่ลูกค้าเป็นผู้กำหนด จากนั้นสินค้าที่ผลิตเสร็จแล้วจะถูกนำไปทำการตลาดและจัดจำหน่ายภายใต้แบรนด์ของลูกค้าเอง ซึ่งแตกต่างจากการซื้อสินค้าสำเร็จรูปมาติดแบรนด์อย่างสิ้นเชิง โมเดลธุรกิจนี้เป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้แบรนด์ต่างๆ สามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ ควบคุมคุณภาพ และกำหนดทิศทางการตลาดได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกความหมายของ OEM ความแตกต่างจากรูปแบบการผลิตอื่นๆ อย่าง ODM, OBM, White Label และ Private Label รวมถึงประโยชน์มหาศาลที่ OEM มอบให้กับธุรกิจ โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพ อาหารเสริม และความงาม พร้อมแนะนำเส้นทางสู่การสร้างแบรนด์ของคุณเองกับ iBio Co., Ltd.
OEM คืออะไร? ทำความเข้าใจการผลิตแบบ Original Equipment Manufacturer
Original Equipment Manufacturer หรือ OEM คือกระบวนการที่โรงงานผู้ผลิตรับจ้างผลิตสินค้าให้กับลูกค้า โดยลูกค้าเป็นผู้กำหนดสเปก รายละเอียดการออกแบบ สูตรส่วนผสม และแม้กระทั่งวัสดุที่ใช้ในการผลิตทั้งหมด ผู้ผลิต OEM มีหน้าที่หลักในการแปลงวิสัยทัศน์ของลูกค้าให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้ ด้วยความเชี่ยวชาญด้านการผลิต เทคโนโลยี เครื่องจักร และบุคลากรที่จำเป็น หลังจากสินค้าผลิตเสร็จสิ้นตามมาตรฐานที่กำหนด สินค้าเหล่านั้นจะถูกส่งมอบให้กับลูกค้า เพื่อนำไปบรรจุภัณฑ์ ติดฉลาก และทำการตลาดภายใต้ชื่อแบรนด์ของลูกค้าเอง ข้อดีที่โดดเด่นของ OEM คือการที่เจ้าของแบรนด์สามารถควบคุมทุกแง่มุมของผลิตภัณฑ์ได้อย่างเต็มที่ ตั้งแต่แนวคิดเริ่มต้น การคัดเลือกวัตถุดิบ การพัฒนาสูตรเฉพาะ (Unique Formulation) ไปจนถึงการออกแบบบรรจุภัณฑ์ ทำให้สามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ไม่ซ้ำใคร และตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำที่สุด
ในอุตสาหกรรมสุขภาพ อาหารเสริม และความงาม การผลิตแบบ OEM ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้แบรนด์ใหม่ๆ สามารถก้าวเข้าสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องลงทุนมหาศาลในการสร้างโรงงาน วิจัยและพัฒนา หรือจ้างทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตเองทั้งหมด ผู้ประกอบการสามารถมุ่งเน้นไปที่การสร้างแบรนด์ การตลาด และการจัดจำหน่าย ขณะที่หน้าที่การผลิตจะถูกส่งมอบให้กับผู้เชี่ยวชาญในการทำ OEM ซึ่งช่วยลดความเสี่ยง ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจได้อย่างมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นการผลิตอาหารเสริมแบบ OEM เฉพาะทาง ครีมบำรุงผิวสูตรพิเศษ หรือผลิตภัณฑ์เมคอัพที่ตรงใจกลุ่มลูกค้า การเลือกใช้บริการ OEM ที่มีประสบการณ์และความน่าเชื่อถือจะช่วยให้ความฝันในการสร้างแบรนด์เป็นจริงได้ง่ายขึ้น
เจาะลึกความแตกต่าง: OEM, ODM, OBM, White Label และ Private Label
เพื่อทำความเข้าใจ OEM ได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น สิ่งสำคัญคือต้องแยกแยะความแตกต่างจากโมเดลการผลิตอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งแต่ละรูปแบบมีระดับการควบคุมและความรับผิดชอบที่แตกต่างกันไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดสินค้าสุขภาพและความงาม การเปรียบเทียบนี้จะช่วยให้เห็นภาพความแตกต่างของ OEM, ODM, OBM, White Label และ Private Label ชัดเจนมากยิ่งขึ้น:
1. OEM (Original Equipment Manufacturer)
OEM คือ การผลิตตามคำสั่งของลูกค้า โดยลูกค้าเป็นผู้ออกแบบสูตรหรือผลิตภัณฑ์เองทั้งหมด แล้วส่งให้โรงงานผลิตตามนั้น
คุณสมบัติของ OEM มีดังต่อไปนี้
- การออกแบบ/สูตร: ลูกค้าเป็นผู้กำหนดทั้งหมด หรือทำงานร่วมกับผู้ผลิต
- การผลิต: ผลิตตามสเปกที่ลูกค้ากำหนดอย่างเคร่งครัด
- การควบคุมแบรนด์: ลูกค้าควบคุมแบรนด์ได้ 100% (ตั้งแต่สูตรถึงบรรจุภัณฑ์)
- เอกลักษณ์/ความพิเศษ: สูงมาก (สินค้าไม่เหมือนใคร)
- ความซับซ้อน/ต้นทุนเริ่มต้น: สูงกว่า ODM เล็กน้อย (ในแง่การ R&D หากไม่มีสูตร) แต่คุ้มค่าในระยะยาว
- เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการสร้างสรรค์สินค้าเฉพาะตัว มีวิสัยทัศน์ชัดเจน
2. ODM (Original Design Manufacturer)
ODM คือ โรงงานออกแบบสูตรและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ทั้งหมด ลูกค้าเลือกจากที่โรงงานมี และใส่แบรนด์ของตนเองได้
คุณสมบัติของ ODM มีดังต่อไปนี้
- การออกแบบ/สูตร: ผู้ผลิตเป็นผู้ออกแบบและพัฒนาสูตรเบื้องต้น ลูกค้าเลือกจากที่มีอยู่
- การผลิต: ผลิตสินค้าสำเร็จรูปตามการออกแบบของตนเอง
- การควบคุมแบรนด์: ลูกค้าติดแบรนด์ของตนเองบนสินค้าที่ผู้ผลิตออกแบบไว้แล้ว
- เอกลักษณ์/ความพิเศษ: ปานกลางถึงต่ำ (สินค้าอาจคล้ายคู่แข่งที่ใช้ ODM เดียวกัน)
- ความซับซ้อน/ต้นทุนเริ่มต้น: ต่ำกว่า OEM (ไม่ต้อง R&D เอง)
- เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการเข้าสู่ตลาดเร็ว ไม่ต้องการลงทุน R&D มาก
3. OBM (Original Brand Manufacturer)
OBM คือ โรงงานเป็นเจ้าของแบรนด์เองทั้งหมด ตั้งแต่สูตร การผลิต ไปจนถึงการขาย
คุณสมบัติของ OBM มีดังต่อไปนี้
- การออกแบบ/สูตร: ผู้ผลิตเป็นผู้ออกแบบ พัฒนา และเป็นเจ้าของแบรนด์เองทั้งหมด
- การผลิต: ผลิตและจำหน่ายภายใต้แบรนด์ของตนเอง
- การควบคุมแบรนด์: ผู้ผลิตเป็นเจ้าของแบรนด์เอง
- เอกลักษณ์/ความพิเศษ: สูงสุด (สร้างนวัตกรรมและเอกลักษณ์ของแบรนด์ตนเอง)
- ความซับซ้อน/ต้นทุนเริ่มต้น: สูงสุด (ลงทุนเองทั้งหมด)
- เหมาะสำหรับ: บริษัทผู้ผลิตที่ต้องการสร้างแบรนด์และบุกตลาดด้วยตนเอง
4. White Label
White Label คือ โรงงานผลิตสินค้ามาตรฐานไว้แล้ว ลูกค้าแค่นำสินค้าเหล่านั้นมาใส่แบรนด์ตัวเอง โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงสูตรหรือ
คุณสมบัติของ White Label มีดังต่อไปนี้
- การออกแบบ/สูตร: ผู้ผลิตเป็นผู้ออกแบบ/ผลิตสินค้าทั่วไป ลูกค้าเลือกจากที่มีอยู่
- การผลิต: ผลิตสินค้าทั่วไปจำนวนมาก
- การควบคุมแบรนด์: ลูกค้าติดแบรนด์ของตนเองบนสินค้าทั่วไป (Generic)
- เอกลักษณ์/ความพิเศษ: ต่ำมาก (สินค้าทั่วไป มีจำหน่ายให้หลายแบรนด์)
- ความซับซ้อน/ต้นทุนเริ่มต้น: ต่ำที่สุด (ซื้อสินค้าสำเร็จรูปมาติดแบรนด์)
- เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการสินค้าเริ่มต้นง่ายๆ รวดเร็ว เน้นปริมาณ
4. Private Label
Private Label คือ การนำสินค้าจากโรงงานมาใส่แบรนด์ตัวเอง คล้าย White Label แต่ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนรายละเอียดเล็กน้อย เช่น กลิ่น สี หรือบรรจุภัณฑ์ เพื่อให้ดูเฉพาะตัวมากขึ้นได้
คุณสมบัติของ Private Label มีดังต่อไปนี้
- การออกแบบ/สูตร: คล้าย White Label แต่ลูกค้าอาจมีส่วนร่วมในการปรับแต่งเล็กน้อย
- การผลิต: ผลิตสินค้าทั่วไปจำนวนมาก
- การควบคุมแบรนด์: ลูกค้าติดแบรนด์ของตนเองบนสินค้าทั่วไป (Generic)
- เอกลักษณ์/ความพิเศษ: ต่ำมาก (สินค้าทั่วไป มีจำหน่ายให้หลายแบรนด์)
- ความซับซ้อน/ต้นทุนเริ่มต้น: ต่ำที่สุด (ซื้อสินค้าสำเร็จรูปมาติดแบรนด์)
- เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการสินค้าเริ่มต้นง่ายๆ รวดเร็ว เน้นปริมาณ

ในอุตสาหกรรมสุขภาพและความงาม ความแตกต่างเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเกี่ยวข้องโดยตรงกับความสามารถในการสร้างความโดดเด่นและครองใจผู้บริโภค การเลือกโมเดล OEM ช่วยให้ธุรกิจสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็น “Signature” ของตัวเองได้อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นสูตรอาหารเสริมเฉพาะบุคคล ครีมบำรุงผิวที่เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติหายาก หรือเครื่องสำอางที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในตลาดที่มีการแข่งขันสูง
ทำไม OEM จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจสุขภาพและความงาม?
การผลิตแบบ OEM มอบข้อได้เปรียบมากมายที่ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมสุขภาพ อาหารเสริม และความงาม ไม่ว่าจะเป็นสตาร์ทอัพที่เพิ่งเริ่มต้น หรือบริษัทที่ต้องการขยายสายผลิตภัณฑ์ ซึ่งการทำธุรกิจแบบ OEM อาหารเสริมและ OEM เครื่องสำอางนั้น ข้อดีหลักๆ ได้แก่:
- สร้างสรรค์สูตรเฉพาะและเอกลักษณ์ของแบรนด์: ข้อได้เปรียบที่สำคัญที่สุดของ OEM คือความสามารถในการพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ที่ไม่ซ้ำใคร (Unique Formulation) ลูกค้าสามารถทำงานร่วมกับทีม R&D ของผู้ผลิตอาหารเสริมหรือเครื่องสำอางแบบ OEM เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสม สรรพคุณ และคุณสมบัติที่แตกต่างจากคู่แข่งในตลาดได้อย่างสิ้นเชิง เช่น การผสมผสานสารสกัดธรรมชาติหายาก วิตามิน หรือเทคโนโลยีล้ำสมัยที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวพรรณหรือสุขภาพเฉพาะจุด สิ่งนี้ช่วยให้แบรนด์อาหารเสริมหรือเครื่องสำอางของคุณมี “จุดขาย” ที่แข็งแกร่งและสร้างความจดจำให้กับผู้บริโภคได้อย่างยั่งยืน
- ควบคุมคุณภาพและมาตรฐานการผลิต: แม้ว่าผู้ผลิต OEM จะเป็นผู้ดำเนินการผลิต แต่เจ้าของแบรนด์ยังคงมีอำนาจในการควบคุมคุณภาพอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบที่ผ่านการรับรอง ไปจนถึงกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน GMP, ISO, Halal (ถ้ามี) และการตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย ทำให้มั่นใจได้ว่าสินค้าที่ออกสู่ตลาดนั้นปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และตรงตามความคาดหวังของแบรนด์
- ลดภาระการลงทุนและการบริหารจัดการ: การสร้างโรงงานผลิต วิจัยและพัฒนา รวมถึงการจ้างบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญต้องใช้เงินลงทุนและเวลาจำนวนมาก การใช้บริการ OEM อาหารเสริมหรือเครื่องสำอางคจะช่วยให้ธุรกิจประหยัดต้นทุนเหล่านี้ได้อย่างมหาศาล และสามารถนำทรัพยากรไปทุ่มเทให้กับการตลาด การสร้างแบรนด์ และการจัดจำหน่าย ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างยอดขายและขยายฐานลูกค้า
- เข้าถึงความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยี: ผู้ผลิตที่ให้บริการ OEM นั้นมักจะมีประสบการณ์ยาวนานในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะ OEM อาหารเสริมหรือเครื่องสำอางที่จะพร้อมด้วยทีมงาน R&D ที่เชี่ยวชาญ เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย และความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับกฎระเบียบและข้อบังคับต่างๆ (เช่น อย.) การร่วมงานกับผู้ผลิต OEM อาหารเสริมและเครื่องสำอางที่มีคุณภาพจะช่วยให้แบรนด์ของคุณได้รับประโยชน์จากความเชี่ยวชาญเหล่านี้ โดยไม่ต้องลงทุนพัฒนาเองทั้งหมด
- ขยายตลาดและสร้างนวัตกรรม: OEM อาหารเสริมช่วยให้ธุรกิจสามารถตอบสนองต่อเทรนด์ตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างรวดเร็ว หรือแม้กระทั่งสร้างเทรนด์ใหม่ๆ ได้เอง เนื่องจากมีความยืดหยุ่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดได้ทันท่วงที โดยเฉพาะในตลาดอาหารเสริมและเครื่องสำอางที่มีการแข่งขันสูง การนำเสนอผลิตภัณฑ์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความเป็นผู้นำ
ด้วยข้อดีเหล่านี้ การผลิตแบบ OEM จึงเป็นกลยุทธ์ที่ทรงพลังที่ช่วยให้ธุรกิจทุกขนาด ตั้งแต่สตาร์ทอัพไปจนถึงบริษัทขนาดใหญ่ สามารถสร้างสรรค์และนำเสนอผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงามคุณภาพสูงออกสู่ตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
สร้างแบรนด์สุขภาพและความงามของคุณเองกับ iBio Co., Ltd. บริการ OEM ครบวงจร
หากคุณมีความฝันที่จะสร้างแบรนด์สินค้าสุขภาพ อาหารเสริม หรือความงามเป็นของตัวเอง แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร หรือกังวลเรื่องการผลิต iBio Co., Ltd. คือคำตอบที่คุณกำลังมองหา เราคือผู้เชี่ยวชาญด้านบริการ OEM อาหารเสริมและเครื่องสำอางครบวงจร ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการผลิตที่ยาวนาน เราพร้อมเป็นพาร์ทเนอร์ที่จะช่วยให้วิสัยทัศน์ของคุณเป็นจริง
iBio Co., Ltd. ให้บริการครอบคลุมทุกขั้นตอนของการสร้างแบรนด์อาหารเสริมแบบ OEM และการสร้างแบรนด์เครื่องสำอางแบบ OEM ตั้งแต่ต้นจนจบ:
- การวิจัยและพัฒนา (R&D): ทีมงาน R&D ผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมทำงานร่วมกับคุณ เพื่อพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ที่ไม่ซ้ำใครทั้งอาหารเสริมและเครื่องสำอาง ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด และใช้ส่วนผสมคุณภาพสูงที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดี
- การผลิต (Manufacturing): โรงงานของเราได้มาตรฐานระดับสากล พร้อมเครื่องจักรที่ทันสมัย และกระบวนการผลิตที่ควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าของคุณมีคุณภาพสูงสุด ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ
- การขออนุญาตและกฎระเบียบ (Regulatory Support): เรามีทีมงานที่พร้อมให้คำปรึกษาและดำเนินการเรื่องการจดแจ้ง อย. และเอกสารสำคัญอื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับอาหารเสริมและเครื่องสำอาง เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของคุณถูกต้องตามกฎหมายและพร้อมวางจำหน่าย
- การให้คำปรึกษาด้านแบรนด์ (Brand Consultation): เราไม่เพียงแค่ผลิต แต่ยังพร้อมให้คำแนะนำด้านการสร้างแบรนด์ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ และกลยุทธ์การตลาด เพื่อให้แบรนด์ของคุณโดดเด่นและประสบความสำเร็จในตลาด
ไม่ว่าจะเป็นอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ ครีมบำรุงผิวลดเลือนริ้วรอย เซรั่มบำรุงผม หรือผลิตภัณฑ์ความงามอื่นๆ iBio Co., Ltd. พร้อมที่จะเป็นก้าวแรกและก้าวสำคัญในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงภายใต้แบรนด์ของคุณเอง ปลดล็อกศักยภาพทางธุรกิจและสร้างโอกาสใหม่ๆ ในตลาดสุขภาพและความงามที่กำลังเติบโต
ค้นพบเส้นทางสู่การเป็นเจ้าของแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ และสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง แม้คุณจะเริ่มต้นธุรกิจด้วยงบน้อย คุณก็สามารถประสบความสำเร็จได้หากมีพาร์ทเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ สนใจติดต่อ iBio Co., Ltd. วันนี้ เพื่อปรึกษาและเริ่มต้นสร้างแบรนด์ของคุณ โทรเลย 02-713-8989 หรือสามารถดูรายละเอียดเกี่ยวกับบริการ OEM อาหารเสริมของ iBio เพิ่มเติมได้ที่ oem อาหารเสริม ครบวงจร และบริการ OEM เครื่องสำอางของ iBio ได้ที่ oem เครื่องสำอาง ครบวงจร
คำถามที่พบบ่อย
A: OEM เหมาะสำหรับผู้ประกอบการ สตาร์ทอัพ นักธุรกิจ หรือบริษัทที่ต้องการสร้างแบรนด์สินค้าของตนเอง โดยมีแนวคิดหรือสูตรผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจน และต้องการควบคุมคุณภาพ รวมถึงเอกลักษณ์ของสินค้าได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องการลงทุนสร้างโรงงานผลิตเอง
A: ระยะเวลาในการสร้างแบรนด์ OEM แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของสูตร การวิจัยและพัฒนา การทดสอบ การขออนุญาต อย. และปริมาณการผลิต โดยทั่วไปอาจใช้เวลาตั้งแต่ 3-6 เดือน หรือนานกว่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีความซับซ้อนสูง การปรึกษาผู้ผลิต OEM ตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้คุณได้รับกำหนดการที่แม่นยำยิ่งขึ้น
A: ทาง บริษัท ไอไบโอ จำกัด (iBio) มีบริการ ดูแลและยื่นจดทะเบียน อย. (เลขสารบบอาหาร) ให้ครบถ้วนในนามของลูกค้า โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายอาหารคอยให้คำปรึกษา และจัดเตรียมเอกสารทุกขั้นตอน ช่วยให้คุณสามารถเริ่มต้นสร้างแบรนด์ได้อย่างมั่นใจและถูกต้องตามกฎหมาย
A: โรงงาน iBio ให้ความสำคัญสูงสุดกับคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ โดยมีมาตรฐานระดับสากลรองรับการผลิตอย่างครบถ้วน ดังนี้:
1. GMP (Good Manufacturing Practice): มาตรฐานการผลิตที่ควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน ตั้งแต่วัตถุดิบ เครื่องจักร ไปจนถึงกระบวนการผลิต
2. HACCP (Hazard Analysis and Critical Control Point): ระบบวิเคราะห์ความเสี่ยงและควบคุมจุดวิกฤตในการผลิต เพื่อความปลอดภัยด้านอาหาร
3. ISO 9001: มาตรฐานระบบบริหารคุณภาพ ที่ช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพสม่ำเสมอ และมีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
4. อย. (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา): สินค้าทุกชิ้นสามารถขอเลขสารบบอาหารในนามลูกค้าได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
5. Halal: รองรับตลาดมุสลิม ด้วยมาตรฐานการผลิตอาหารที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลาม (หากลูกค้าต้องการ)



