ทำไม อย. จึงเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจอาหารเสริม?
ในยุคที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในประเทศไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดด กลายเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงที่สุด ผู้ประกอบการหน้าใหม่จำนวนมากต่างใฝ่ฝันที่จะสร้างแบรนด์ของตัวเองให้ประสบความสำเร็จ แต่ท่ามกลางผลิตภัณฑ์มากมายที่วางจำหน่ายในท้องตลาด อะไรคือปัจจัยสำคัญที่จะทำให้แบรนด์ของคุณโดดเด่นและได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภค? คำตอบที่ชัดเจนที่สุดคือ “เครื่องหมาย อย.”
หลายคนอาจมองว่าการขออนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นเพียงขั้นตอนทางกฎหมายที่ยุ่งยากและซับซ้อน แต่ในความเป็นจริงแล้ว เครื่องหมาย อย. ไม่ได้เป็นแค่ใบอนุญาต แต่เป็นตราประทับแห่งคุณภาพ ความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่จะชี้ชะตาความสำเร็จของธุรกิจอาหารเสริมของคุณได้เลยทีเดียว บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกถึงความสำคัญของ อย. ในทุกมิติ ตั้งแต่การทำความเข้าใจว่า อย. คืออะไร เหตุใดทุกแบรนด์จึงต้องมี ไปจนถึงประโยชน์มหาศาลที่แบรนด์ของคุณจะได้รับ พร้อมคำแนะนำสำหรับผู้ประกอบการใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นอย่างมั่นคงและถูกกฎหมาย
ไขข้อข้องใจ: อย. คืออะไร และมีหน้าที่อะไร?
ก่อนจะไปถึงความสำคัญ เรามาทำความรู้จักกับ “อย.” ให้มากขึ้นกันก่อน เพื่อให้เข้าใจบทบาทและหน้าที่ของหน่วยงานนี้ได้อย่างถ่องแท้
นิยามและบทบาทของ อย.
อย. หรือ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (Food and Drug Administration) เป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขของไทย มีหน้าที่คุ้มครองสุขภาพประชาชนจากการบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพ เช่น อาหาร ยา เครื่องสำอาง และเวชภัณฑ์ โดยจะพิจารณาคุณภาพ ความปลอดภัย และประสิทธิภาพให้เป็นไปตามมาตรฐาน และเครื่องหมาย อย. บนผลิตภัณฑ์บ่งบอกว่าผลิตภัณฑ์นั้นผ่านการตรวจสอบตามกฎหมาย
สำหรับธุรกิจอาหารเสริม อย. มีบทบาทเปรียบเสมือน “ผู้พิทักษ์” ด่านแรกของผู้บริโภค โดยทำหน้าที่ตรวจสอบและอนุมัติผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทุกชนิดก่อนที่จะสามารถวางจำหน่ายได้ กระบวนการตรวจสอบนี้ครอบคลุมตั้งแต่ส่วนผสมที่ใช้ สูตรการผลิต ความปลอดภัย กระบวนการผลิตในโรงงานที่ได้มาตรฐาน ไปจนถึงการแสดงข้อมูลบนฉลากที่ต้องถูกต้องและไม่กล่าวอ้างสรรพคุณเกินจริง
เครื่องหมาย อย. บนผลิตภัณฑ์อาหารเสริมบอกอะไรเรา?
เมื่อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารผ่านการพิจารณาและได้รับการอนุมัติจาก อย. แล้ว จะได้รับสิ่งที่เรียกว่า “เลขสารบบอาหาร” ซึ่งเป็นตัวเลข 13 หลัก แสดงอยู่ภายในกรอบเครื่องหมาย อย. ที่เราคุ้นตากันดีบนฉลากผลิตภัณฑ์ เลข 13 หลักนี้ไม่ใช่แค่ตัวเลขสุ่มๆ แต่มีความหมายซ่อนอยู่และเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบข้อมูลของผลิตภัณฑ์ได้
เลขสารบบอาหาร 13 หลัก ประกอบด้วยข้อมูลต่างๆ ดังนี้:
- กลุ่มที่ 1 (2 หลักแรก): รหัสจังหวัดที่ตั้งของสถานที่ผลิตหรือนำเข้า
- กลุ่มที่ 2 (1 หลักถัดมา): สถานะของสถานที่ผลิตหรือนำเข้า (เช่น เลข 1 หมายถึง สถานที่ผลิตที่ได้รับอนุญาตจาก อย.)
- กลุ่มที่ 3 (5 หลักถัดมา): เลขประจำสถานที่ผลิตหรือนำเข้าที่ได้รับอนุญาต
- กลุ่มที่ 4 (2 หลักถัดมา): หน่วยงานที่ออกเลขสารบบอาหาร
- กลุ่มที่ 5 (3 หลักสุดท้าย): ลำดับที่ของผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการอนุมัติ ณ สถานที่นั้นๆ
การมีเลขสารบบอาหารนี้จึงเป็นการยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวได้ผ่านการตรวจสอบและขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ผู้บริโภคสามารถนำเลขนี้ไปตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ของ อย. เพื่อความมั่นใจสูงสุด
ความจำเป็นทางกฎหมาย: ทำไมทุกแบรนด์ต้องมี อย.?
การมีเครื่องหมาย อย. ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็น “ข้อบังคับ” ทางกฎหมายที่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทุกยี่ห้อที่ต้องการผลิตและจำหน่ายในประเทศไทยต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด การละเลยข้อกำหนดนี้อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ร้ายแรงทั้งต่อผู้บริโภคและตัวเจ้าของแบรนด์เอง
ข้อบังคับและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ธุรกิจอาหารเสริมอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 ซึ่งกำหนดไว้อย่างชัดเจนว่า การผลิต นำเข้า หรือจำหน่ายอาหารที่ไม่ผ่านการขึ้นทะเบียนตำรับอาหาร (ในกรณีของอาหารเสริมคือการขอเลขสารบบอาหาร) ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราที่สูง การดำเนินธุรกิจโดยไม่มี อย. จึงเป็นการกระทำที่สุ่มเสี่ยงและไม่สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน เพราะนอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว ยังไม่สามารถนำสินค้าไปวางจำหน่ายในช่องทางที่น่าเชื่อถือ เช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ขนาดใหญ่ได้
มาตรฐานที่ อย. กำหนดสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
เพื่อให้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารได้รับการอนุมัติ ผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตามมาตรฐานที่ อย. กำหนดไว้อย่างเข้มงวด ซึ่งครอบคลุม 3 ด้านหลักๆ ดังนี้:
1. ส่วนผสมที่ปลอดภัย (Safe Ingredients): ส่วนประกอบทุกชนิดที่ใช้ในสูตรต้องเป็นส่วนผสมที่ อย. อนุญาตให้ใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารได้ และต้องใช้ในปริมาณที่ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ส่วนผสมบางชนิดอาจต้องมีเอกสารยืนยันความปลอดภัยหรือผลการวิเคราะห์จากห้องปฏิบัติการที่เชื่อถือได้ประกอบการพิจารณาด้วย
2. ฉลากที่ถูกต้องและไม่เกินจริง (Correct Labeling): ฉลากผลิตภัณฑ์เป็นสิ่งสำคัญที่ อย. ให้ความสำคัญอย่างมาก ข้อมูลบนฉลากต้องครบถ้วน ถูกต้อง และชัดเจน ประกอบด้วย ชื่อผลิตภัณฑ์, เลขสารบบอาหาร 13 หลัก, ส่วนประกอบสำคัญ, ข้อมูลโภชนาการ, น้ำหนักสุทธิ, ชื่อและที่อยู่ของผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย, วันผลิต/หมดอายุ, และคำเตือน (ถ้ามี) ที่สำคัญที่สุดคือ การกล่าวอ้างสรรพคุณ (Claims) ต้องเป็นไปตามที่ อย. อนุญาต ห้ามอวดอ้างว่าสามารถป้องกัน บำบัด หรือรักษาโรคได้โดยเด็ดขาด
3. กระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน (Standardized Manufacturing Process): สถานที่ผลิตอาหารเสริมจะต้องได้รับการรับรองมาตรฐานวิธีการที่ดีในการผลิต หรือ GMP (Good Manufacturing Practice) ซึ่งเป็นข้อกำหนดสากลที่ควบคุมกระบวนการผลิตให้มีความสะอาด ปลอดภัย และมีคุณภาพสม่ำเสมอ ตั้งแต่การควบคุมวัตถุดิบ อาคารสถานที่ เครื่องจักร บุคลากร ไปจนถึงการจัดเก็บและขนส่ง การมี GMP เป็นการการันตีว่าผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นที่ออกจากโรงงานมีมาตรฐานเดียวกันและปลอดภัยต่อผู้บริโภค
สร้างความเชื่อมั่น: ประโยชน์ของการมี อย. ต่อแบรนด์และผู้บริโภค
นอกเหนือจากความจำเป็นทางกฎหมายแล้ว การได้รับเครื่องหมาย อย. ยังมอบประโยชน์มหาศาลที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจของคุณให้เติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งในมุมของผู้บริโภคและเจ้าของแบรนด์
สำหรับผู้บริโภค: หลักประกันความปลอดภัยและคุณภาพ
ในตลาดที่มีผลิตภัณฑ์ลอกเลียนแบบหรือไม่ได้มาตรฐานอยู่มากมาย เครื่องหมาย อย. คือสัญลักษณ์ที่ช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อได้อย่างมั่นใจ พวกเขาสามารถเชื่อมั่นได้ว่า:
- ผลิตภัณฑ์นั้นผลิตในสถานที่ที่สะอาดและถูกสุขลักษณะ
- ส่วนผสมที่ใช้มีความปลอดภัยและผ่านการตรวจสอบแล้ว
- ข้อมูลบนฉลากมีความน่าเชื่อถือและไม่หลอกลวง
- หากเกิดปัญหาใดๆ สามารถตรวจสอบย้อนกลับไปยังผู้ผลิตหรือผู้จัดจำหน่ายได้
สำหรับเจ้าของแบรนด์: สร้างความน่าเชื่อถือและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ
การลงทุนลงแรงเพื่อให้ได้มาซึ่งเครื่องหมาย อย. ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับแบรนด์ เพราะมันคือเครื่องมือทางการตลาดที่ทรงพลังที่สุด:
- สร้างความน่าเชื่อถือ (Credibility): อย. ช่วยยกระดับแบรนด์ของคุณให้แตกต่างจากสินค้าที่ไม่มีมาตรฐาน ทำให้แบรนด์ดูเป็นมืออาชีพและน่าเชื่อถือในสายตาผู้บริโภคและคู่ค้า
- ขยายช่องทางการจัดจำหน่าย (Wider Distribution): สินค้าที่มี อย. สามารถวางจำหน่ายในช่องทางสมัยใหม่ (Modern Trade) เช่น ห้างสรรพสินค้า, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ร้านสะดวกซื้อ, และร้านขายยา รวมถึงแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำ ซึ่งเป็นช่องทางที่เข้าถึงผู้บริโภควงกว้าง
- ทำการตลาดได้อย่างถูกกฎหมาย (Legal Marketing): คุณสามารถโฆษณาประชาสัมพันธ์แบรนด์ของคุณผ่านสื่อต่างๆ ได้อย่างเปิดเผยและถูกต้องตามกฎหมาย โดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกตรวจสอบหรือดำเนินคดี
- ประตูสู่ตลาดสากล (Gateway to International Markets): การมีเลข อย. และการผลิตภายใต้มาตรฐาน GMP ไม่เพียงแต่สำคัญสำหรับตลาดในประเทศ แต่ยังเป็นใบเบิกทางสำคัญสำหรับการส่งออกสินค้าไปจำหน่ายในต่างประเทศอีกด้วย หลายประเทศยอมรับมาตรฐานเหล่านี้เป็นพื้นฐานในการพิจารณาอนุญาตนำเข้าผลิตภัณฑ์
ขั้นตอนการขอขึ้นทะเบียน อย. อาหารเสริม: คู่มือสำหรับผู้ประกอบการใหม่
กระบวนการขอ อย. อาจดูซับซ้อนสำหรับผู้เริ่มต้น แต่หากมีการเตรียมตัวที่ดีและเข้าใจขั้นตอน ก็จะสามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่น โดยขั้นตอนหลักๆ มีดังนี้
ขั้นตอนหลักในการยื่นขอ อย.
- เตรียมความพร้อมด้านสถานที่: หากคุณเป็นผู้ผลิตเอง สถานที่ผลิตต้องได้รับการตรวจประเมินและได้รับใบอนุญาตผลิตอาหาร (อ.2) และผ่านมาตรฐาน GMP เสียก่อน หากคุณจ้างโรงงาน OEM ผลิต ต้องเลือกโรงงานที่มีใบอนุญาตเหล่านี้ครบถ้วน
- เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน: รวบรวมเอกสารสำคัญต่างๆ เช่น หนังสือรับรองบริษัท, ใบอนุญาตผลิตอาหารของโรงงาน, สูตรผลิตภัณฑ์ที่ระบุส่วนผสมและปริมาณอย่างละเอียด, ตัวอย่างฉลากผลิตภัณฑ์, รายละเอียดกระบวนการผลิต, และผลวิเคราะห์คุณภาพหรือความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ (ถ้ามี)
- ยื่นคำขอผ่านระบบออนไลน์ (e-Submission): ปัจจุบัน อย. ได้พัฒนาระบบการยื่นคำขอผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว ผู้ประกอบการต้องลงทะเบียนและยื่นเอกสารทั้งหมดผ่านระบบนี้
- เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและพิจารณา: เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบความถูกต้องและครบถ้วนของเอกสารทั้งหมด รวมถึงพิจารณาสูตร ส่วนผสม และคำกล่าวอ้างบนฉลากว่าสอดคล้องกับข้อกำหนดหรือไม่ อาจมีการขอเอกสารเพิ่มเติมในขั้นตอนนี้
- ชำระค่าธรรมเนียม: เมื่อคำขอผ่านการพิจารณาเบื้องต้นแล้ว จะต้องชำระค่าธรรมเนียมตามที่กำหนด
- รอรับการอนุมัติและเลขสารบบอาหาร: หลังจากชำระค่าธรรมเนียมและคำขอได้รับการอนุมัติขั้นสุดท้ายแล้ว ระบบจะออกเลขสารบบอาหาร 13 หลักให้ ซึ่งคุณสามารถนำไปใช้บนฉลากผลิตภัณฑ์และเริ่มจำหน่ายได้ทันที
ความท้าทายที่พบบ่อยและวิธีรับมือ
ผู้ประกอบการใหม่มักเผชิญกับความท้าทายหลายประการ เช่น ความไม่เข้าใจในข้อบังคับที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ, การเตรียมเอกสารที่ไม่ครบถ้วนทำให้กระบวนการล่าช้า, การพัฒนาสูตรที่ใช้ส่วนผสมหรือปริมาณที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนด, และการออกแบบฉลากที่ใช้คำโฆษณาเกินจริงโดยไม่ตั้งใจ วิธีรับมือที่ดีที่สุดคือการศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ และทางออกที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพสูงสุดคือ การเลือกใช้บริการจากโรงงานรับผลิตอาหารเสริม (OEM) แบบครบวงจร ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ
ตารางเปรียบเทียบ: ธุรกิจอาหารเสริมที่มี อย. และไม่มี อย.
เพื่อให้เห็นภาพความแตกต่างอย่างชัดเจน ลองมาดูตารางเปรียบเทียบระหว่างการทำธุรกิจอย่างถูกต้องตามกฎหมายกับการทำธุรกิจแบบผิดกฎหมาย
ด้าน (Aspect) | มีเครื่องหมาย อย. (With FDA Mark) | ไม่มีเครื่องหมาย อย. (Without FDA Mark) |
---|---|---|
ความน่าเชื่อถือ | สูงมาก ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคและคู่ค้า | ต่ำมาก ถูกมองว่าเป็นสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานและผิดกฎหมาย |
ความปลอดภัยของผู้บริโภค | ได้รับการรับรองด้านความปลอดภัยและคุณภาพ | ไม่มีการรับประกัน อาจมีสารปนเปื้อนหรือส่วนผสมอันตราย |
ช่องทางการจัดจำหน่าย | กว้างขวาง (ห้าง, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านยา, ออนไลน์แพลตฟอร์ม) | จำกัดมาก (ตลาดมืด, ขายตรงแบบปิด, ช่องทางใต้ดิน) |
การตลาดและการโฆษณา | ทำได้อย่างเปิดเผยและถูกต้องตามกฎหมายทุกช่องทาง | ทำได้ยาก เสี่ยงต่อการถูกตรวจสอบและดำเนินคดี |
ความเสี่ยงทางกฎหมาย | ไม่มีความเสี่ยง ดำเนินธุรกิจได้อย่างสบายใจ | สูงมาก เสี่ยงต่อการถูกจับกุม มีโทษทั้งจำคุกและปรับ |
โอกาสในการส่งออก | มีโอกาสสูง เป็นที่ยอมรับในตลาดต่างประเทศ | ไม่มีโอกาสโดยสิ้นเชิง |
ทางลัดสู่ความสำเร็จ: ทำไมต้องเลือกพาร์ทเนอร์ OEM ที่เชี่ยวชาญ?
สำหรับเจ้าของแบรนด์มือใหม่ การต้องจัดการกับกระบวนการผลิตที่ซับซ้อนและการขอขึ้นทะเบียน อย. ที่เต็มไปด้วยรายละเอียด อาจเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวและเสียเวลาอย่างมาก การเลือกพาร์ทเนอร์โรงงานรับผลิตอาหารเสริม (OEM) ที่มีความเชี่ยวชาญและให้บริการครบวงจรจึงเป็นทางลัดที่ชาญฉลาดที่สุดในการเริ่มต้นธุรกิจ
iBio Co., Ltd.: พาร์ทเนอร์ครบวงจรสำหรับแบรนด์อาหารเสริมของคุณ
iBio คือผู้นำด้านการรับผลิตอาหารเสริมและเครื่องสำอางแบบครบวงจร (One-Stop Service) ด้วยประสบการณ์ยาวนานและความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม เราเข้าใจทุกความท้าทายที่เจ้าของแบรนด์ต้องเผชิญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการขึ้นทะเบียนกับ อย.
เรามีทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายอาหารและยาโดยเฉพาะ ที่พร้อมให้คำปรึกษาและดำเนินการยื่นขอ อย. แทนคุณในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การตรวจสอบสูตรให้สอดคล้องกับข้อกำหนด, การเตรียมเอกสาร, การออกแบบฉลากให้ถูกต้อง, ไปจนถึงการติดตามเรื่องกับเจ้าหน้าที่จนกระทั่งได้รับการอนุมัติ การเลือกใช้บริการกับ iBio จะช่วยให้คุณ:
- ประหยัดเวลาและลดความยุ่งยาก: คุณสามารถมุ่งเน้นไปที่การวางแผนการตลาดและการขายได้อย่างเต็มที่ โดยปล่อยให้เรื่องการผลิตและเอกสารที่ซับซ้อนเป็นหน้าที่ของเรา
- มั่นใจได้ในคุณภาพและมาตรฐาน: โรงงานของเราได้รับการรับรองมาตรฐานสากล GMP, ISO ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ของคุณปลอดภัยและมีคุณภาพสูงสุด
- เริ่มต้นธุรกิจได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง: เราช่วยลดระยะเวลาในกระบวนการขอ อย. ทำให้คุณสามารถนำสินค้าออกสู่ตลาดได้เร็วยิ่งขึ้นและเริ่มต้นสร้างรายได้อย่างถูกกฎหมาย
โดยสรุปแล้ว อย. ไม่ใช่แค่ตราสัญลักษณ์ แต่เป็นรากฐานที่สำคัญของความสำเร็จในธุรกิจอาหารเสริม เป็นเครื่องหมายที่สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภค เปิดประตูสู่โอกาสทางธุรกิจที่กว้างขวาง และเป็นเกราะป้องกันแบรนด์ของคุณจากความเสี่ยงทางกฎหมาย การลงทุนเพื่อให้ได้มาซึ่งเครื่องหมาย อย. โดยร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ที่ใช่เช่น iBio จึงเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดที่สุดสำหรับอนาคตที่ยั่งยืนของแบรนด์คุณ
คำถามที่พบบ่อย
A: การขึ้นทะเบียน อย. เป็นการยืนยันว่าผลิตภัณฑ์อาหารเสริมนั้นๆ มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด และมีข้อมูลที่ถูกต้องตามความจริง เป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์และผลิตภัณฑ์ของคุณ
A: ไม่ได้ การผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน อย. ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย และอาจถูกดำเนินคดีได้
A: โดยทั่วไปอาจใช้เวลา 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของสูตรและความครบถ้วนของเอกสาร การทำงานกับผู้เชี่ยวชาญอย่าง iBio ซึ่งมีความสัมพันธ์อันดีและเข้าใจกระบวนการทำงานของ อย. สามารถช่วยให้กระบวนการรวดเร็วและราบรื่นยิ่งขึ้น
A: สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เลข อย. จะมีอายุตลอดชีพ เว้นแต่จะมีการขอยกเลิกหรือถูกเพิกถอนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
A: ใช่ การมีเลข อย. และใบรับรองมาตรฐานการผลิต GMP จากประเทศไทยเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือและมักเป็นเอกสารจำเป็นในการยื่นขออนุญาตจำหน่ายในหลายประเทศ เพราะเป็นการยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ของคุณผ่านมาตรฐานการกำกับดูแลที่เข้มงวดของประเทศไทยแล้ว
A: ข้อดีคือช่วยประหยัดเวลาและลดความยุ่งยากในการจัดเตรียมเอกสาร การยื่นขออนุญาต และการติดตามผล นอกจากนี้ โรงงานที่มีประสบการณ์จะสามารถให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสูตรและฉลากผลิตภัณฑ์ให้ถูกต้องตามมาตรฐานของ อย. ได้อย่างมืออาชีพ
A: โรงงานผลิตอาหารเสริมส่วนใหญ่จะมีบริการนี้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ซึ่งช่วยให้เจ้าของแบรนด์ไม่ต้องเสียเวลาและยุ่งยากในการดำเนินการด้วยตัวเอง
A: iBio เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตอาหารเสริมแบบครบวงจร ด้วยโรงงานมาตรฐานสากลที่ได้รับการรับรอง GMP, HACCP, ISO พร้อมทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่ดูแลตั้งแต่การคิดค้นสูตร การผลิต การออกแบบ และที่สำคัญคือ มีบริการสนับสนุนการขอ อย. อย่างมืออาชีพ ช่วยลดความยุ่งยากและมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ของคุณจะได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องและรวดเร็ว
A: ควรแจ้งให้โรงงานทราบตั้งแต่ขั้นตอนแรก เพื่อที่โรงงานจะสามารถให้คำปรึกษาเรื่องการพัฒนาสูตรและการขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามข้อกำหนดของ อย. ได้อย่างเหมาะสม
A: ได้ การผลิตอาหารเสริมแบบ OEM (Original Equipment Manufacturer) หรือการผลิตตามแบบที่ลูกค้ากำหนดนั้น ลูกค้าสามารถใช้ชื่อแบรนด์และโลโก้ของตัวเองได้อย่างเต็มที่
หากสนใจอยากเริ่มต้นธุรกิจสร้างแบรนด์อาหารเสริมของตัวเอง สามารถติดต่อสอบถามกับ iBio ได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย เราพร้อมดูแลคุณตั้งแต่เริ่มต้นให้คำปรึกษาจนจบกระบวนการ โทรเลย 02-713-8989 หรือดูรายละเอียดบริการรับผลิตอาหารเสริมของ iBio ได้ที่ รับผลิตอาหารเสริม oem พร้อมสร้างแบรนด์ครบวงจร